จากกรณีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธปืนตะเวนก่อเหตุข่มขู่แล้วชิงเอาทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ซึ่งผู้เสียหายกลัวลูกสาววัยสามขวบได้รับอันตรายจึงจำใจมอบเงิน 3,000 บาท ให้กับผู้ก่อเหตุไป โดยเหตุเกิดที่ ภายในซอยพระตำหนัก 6 ใจกลางเมืองพัทยา ก่อนคนร้ายได้หลบหนีไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.36 น. วันที่ 22 เมษายน 2568 พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ต่อลาภ ตินะมาตร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.สุรเดช อิ่มใจ สว.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว. ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุก่อทราบชื่อคือ นายอุกฤษฎ์ หรือแมค คอลาย อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน มีอาวุธปืนในครอบครอง พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่บริเวณปากซอยเลียบชายหาดพัทยา 13 / 4 พร้อมอาวุธปืน ไทยประดิษฐ์ ได้ใกล้กับที่พบตัวผู้ก่อเหตุ ขณะนั่งเล่นตากลม กินข้าวกับเพื่อนอย่างสบายใจ
โดยเจ้าตัวให้การยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นบุคคลตามหมายจับ และเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนเงินที่ได้นั้นเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง พร้อมทั้งขอโทษสังคมซึ่งตนเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่เพราะทำชีวิตของตัวเอง ส่วนเสื้อวินสีส้มที่ใช้ในวันเกิดเหตุนั้นสวมใส่เพื่อเป็นการอำพรางในการหลบหนีเท่านั้น
เบื้องต้น ได้ควบคุมตัวนายอุกฤษฎ์ หรือแมค คอลาย อายุ 30 ปี พร้อมของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ ทั้งอาวุธปืน และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการหลบหนี ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุรายนี้ ซึ่งพบว่ามีประวัติเคยต้องโทษเกี่ยวกับคดียาเสพติด และปล้นทรัพย์ และเคยถูกจับดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่นาน กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำและถูกจับดังกล่าว