ข่าวพัทยา

เมื่อเวลา 14.06 น.วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 น.ส.รสสุคนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี และ น.ส.รุ่งทิวา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี เดินทางเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ โดยสาเหตุเกิดจากการเตือนไม่ให้เสียงดังเท่านั้น เหตุเกิดที่ร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง ย่านจอมเทียนพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมนำกล้องวงจรปิดมาแสดงให้เป็นหลักฐาน และหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย ผู้เสียหายทั้งสองรายให้ข้อมูลว่า ทั้งคู่ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่พัทยา หลังเลิกงานได้ไปแวะกินข้าว ร้านอาหารตามสั่งย่านจอมเทียน ในระหว่างนั่งรออาหารอยู่นั้น มีกลุ่มผู้ก่อเหตุมีผู้หญิงสองคน ต่างชาติหนึ่งคน เข้ามานั่งดื่มเบียร์และสั่งอาหารอยู่โต๊ะข้างๆ แล้วพูดคุยกันเสียงดัง ตนเองจึงเตือนไปว่า พี่คะ ลดเสียงลงหน่อยได้มั้ย สร้างความไม่พอใจให้กับสองหญิงสาวผู้ก่อเหตุ จึงลุกขึ้นมาด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย ลามไปถึงบิดามารดา ว่า พ่อ แม่ มึงตายเหรอ ฝั่งของตนจึงตอบสวนไปว่า ใช่พ่อตาย แต่แม่ยังอยู่ ยิ่งสร้างความโกธรให้กับคู่กรณีเป็นอย่างมาก ก่อนจะลุกขึ้นมาจิกผมกระชาก ทำร้ายร่างกาย โดยจะใช้ขวดเบียร์…

เมื่อเวลา 04.16 น. วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยารับแจ้งเหตุ ทะเลาะวิวาท เหตุเกิดบริเวณชายหาดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเขตรีบไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบกลุ่มสาวประเภทสอง และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ฝั่งละห้าถึงหกคน อยู่ในอาการได้ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามร่างกายด้วยกันทั้งสองฝ่าย ทั้งยังโต้เถียงกันยังไม่มีทีท่าจะลดละ จึงเชิญตัวทั้งสองฝ่ายมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาทำการสอบสวน โดยฝ่ายสาวประเภทสอง ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าพวกตนยืนรอเรียกลูกค้า อยู่ใต้ต้นมะพร้าวริมชายหาด ได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เข้ามาสอบถามราคาค่าตัว ซึ่งตอนแรกสนนราคา 3,000 บาท โดยตนเองขอค่ามัดจำ 1,000 บาท เพื่อการันตีเพื่อไปร่วมหลับนอน แต่ตนเองกลัวว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากนักท่องเที่ยวเป็นชาวต่างประเทศ และมีอาการคนเมาสุราอย่างหนัก จึงเสนอให้เรียกใช้บริการรายอื่นไปด้วย แต่จู่ๆ นักท่องเที่ยวกลับเปลี่ยนใจ ยกเลิกที่จะซื้อบริการ พร้อมทั้งขอเงินมัดจำคืน กระทั่งเกิดการโต้เถียงกันเมื่อเพื่อนของตนเองพยายามเข้ามาห้ามปราม แต่ฝ่ายนักท่องเที่ยวกลับใช้ขวดฟาดใส่ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนตามคลิปวิดีโอที่สามารถบันทึกภาพไปได้ เป็นวินาทีที่ทั้งสองฝ่ายทะเลาะวิวาทกัน วิ่งไล่ทำร้ายกันอย่างโกลาหล ก่อนที่จะจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารับเหตุไว้ได้ทัน ขณะเดียวกันยังมีพลเมืองดีถูกลูกหลง จนรถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือได้รับความเสียหายไปด้วย ด้าน ไรเดอร์หนุ่ม(ขอสงวนนามและชื่อจริงเบอหน้า) อายุ 29 ปี เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะที่ตนกำลังรอลูกค้าอยู่…

เมื่อเวลา 17.06 น.วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.ปกรณ์ ประกอบนันท์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณป่าริมถนนทัพยา ตรงข้ามศาลจังหวัดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ก่อนพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯรีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านและกลุ่มไรเดอร์อยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ หลังเหตุการณ์ระทึกสงบลง โดยมี MR.ANDREW อายุ 35 ปี สัญชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมกรีดที่บนใบหน้าฝั่งซ้าย หน้าอกขวาเป็นแผลฉกรรจ์ และที่หน้าท้องยังถูกแทงจนใส้ทะลักไหลออกมานอกร่างกาย เป็นที่น่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาบอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า เวลอส สีขาว ขธ 2567 ภูเก็ต หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง สอบถามพลเมืองดี ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะที่ทุกคนนั่งรอผู้โดยสารอยู่ริมป่าใต้ต้นไม้ มีรถยนต์คันดังกล่าว ลักษณะคล้ายมีการต่อสู้กันภายในรถ ทำให้รถเสียหลักพุ่งเข้าไปในในป่าชนกับต้นไม้…

ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศช่วง 13-17 พ.ค.นี้ และ 18-22 พ.ค. มีฝนกระจายต่อเนื่องทุกวัน เหตุมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะเริ่มพัดปกคลุมประเทศไทยและมีกำลังแรงขึ้น และเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายสู่ฤดูฝน เตือนภาคใต้เสี่ยงท่วมฉับพลัน ขณะที่ภาคกลาง ตะวันออก และกทม. วันนี้มีฝนมากถึง 70-80% ของพื้นที่ ล่าสุด เมื่อช่วงเวลา 09.36 น.วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศ ภายในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง ซึ่งมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันกว่า 1 ชั่วโมง ส่งผลปริมาณน้ำฝนเอ่อขึ้นท่วมขังบนพื้นผิวถนน ในหลายจุดทั่วพื้นที่อำเภอบางละมุง เฉกเช่นที่เคยผ่านมาโดยเฉพาะจุดเดิมๆ ที่มีลักษณะภูมิประเทศลุ่มต่ำ เป็นแอ่งกระทะ เช่น บริเวณถนนเลียบทางรถไฟ เขาตาโล วัดธรรมสามัคคีทั้งสองฝั่ง ถนนสุขุมวิทพัทยาใต้ ถนนสายสามช่วงแยกเพนียดช้าง (หรือแยกมุมอร่อย) ตลอดไปจนถึงตามซอยต่างๆ พบว่ามีมวลน้ำเอ่อขึ้นท่วมขัง ตั้งแต่ 10-70 เซนติเมตร จากปริมาณน้ำที่ทะลักขึ้นท่วมขังบนผิวถนน ส่งผลให้บางจุดต้องปิดการจราจร ห้ามสัญจรผ่านไปโดยเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของตัวรถ รวมไปถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่เองด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงใช้แผงเหล็กจอดรถขวาง ประกาศเตือนประชาชน ให้สัญจรผ่านไปได้หลังปริมาณน้ำลดลง…

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยพรประภานิมิต 16 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ปกครอง และนักเรียนเกี่ยวกับกรณีการออกวุฒิการศึกษาปลอม รวมถึงใบเสร็จรับเงินปลอม ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 50 ราย ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองปรือ และเตรียมเดินทางร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.บางละมุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นางสุรีย์ ใจทา อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ลูกสาวเคยสมัครเรียนเมื่อปี 2563 แต่หยุดเรียนกลางคัน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ และกลับมาเรียนใหม่ในปี 2567 พอเรียนได้เทอมเดียว ทางโรงเรียนกลับแจ้งว่า เรียนจบแล้ว พร้อมมีใบเกรดออกให้ครบทุกเทอมระดับ ปวส. ทั้งที่ยังเรียนไม่จบ โดยรองผู้อำนวยการโรงเรียนยังเรียกเก็บค่าเทอม 40,000 บาท แม้ต่อมาจะคืนมาให้ 10,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือคืน ด้าน น.ส.ยู อายุ 19 ปี นักเรียนอีกราย ระบุว่า ตนทยอยจ่ายค่าเทอมครบ 6 เทอม แต่เมื่อเช็กกับทางโรงเรียนกลับพบว่า…

ที่ บริเวณเวทีใหญ่ด้านหน้า สวนน้ำรามายณะ พัทยา นายยุทธนา สร้อยเสนา ปลัดอาวุโส อำเภอสัตหีบ พร้อมด้วย นายเตชวัศ กลิ่นภักดี รองผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา พร้อมด้วย, นายเรืองฤทธิ์ มณีพันธุ์ ปลัดเทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ และนายวลาดิสลาฟ บาดิคา ผู้อำนายการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย สวนน้ำรามายณะ ร่วมพิธีเปิดงาน วิ่งมาราธอน “RAMAYANA RUN 2025” ปีที่ 3 ท่ามกลางนักวิ่ง 1,322 คน สวนน้ำรามายณะ พัทยา ร่วมกับ Reflects และการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา จัดงานวิ่งมาราธอน “RAMAYANA RUN 2025” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ทั้งนี้เพื่อส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงกีฬา และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ชุมชนและบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งเพื่อส่งเสริมการสร้างสุขภาพที่ดี นายวลาดิสลาฟ บาดิคา ผู้อำนายการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย สวนน้ำรามายณะ…

เมื่อเวลา 20.06 น.วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีผู้ประกอบการโรงแรม ลักลอบจัดปาร์ตี้ส่งเสียงดังจึงสั่งการให้นายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.จำลอง จินพละ สวป.สภ.หนองปรือ นายกิตติศักดิ์ มนต์แก้ว ปลัดเทศบาลตำบลโป่ง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. หนองปรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโป่ง กว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจสอบ พัทยาแมนชั่น เลขที่ 70/2 ม.6 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย       หลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลังแล้วไปส่งสายลับไปเฝ้าสังเกตการณ์พบว่า มีการลักลอบจัดปาร์ตี้ สระน้ำ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ สัญชาติอินเดีย กว่า 200 คน กำลังเล่นน้ำอยู่ในสระน้ำ และนั่งดื่มแอลกอฮอล์ อยู่ริมสระน้ำ เคล้าคลอเสียงดนตรี ดังสนั่น…

เมื่อเวลา 01.10 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย อายุ 65 ปี สัญชาติออสเตรเลีย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.อัครพงษ์ แสนปุตะวงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังถูกผู้หญิงไทย ลักทรัพย์เป็นเงินสกุลดอลล่าร์ 350 ดอลล่าร์ เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร. เมืองพัทยา) ให้ข้อมูลว่า ขณะที่กำลังเดินเท้าออกตรวจชายหาดพัทยา พบนักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศนั่งวีลแชร์ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน หลังเจอ ผู้หญิงต้องสงสัยก่อเหตุลักทรัพย์เป็นเงินสกุลต่างประเทศ จำนวน 350 ดอลล่าร์ และเงินไทยประมาณ 3,500 บาท อยู่บริเวณชายหาด ขณะที่เจ้าตัวให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองเข็นวีลแชร์ มาพบหญิงสาวชาวไทยที่บริเวณชายหาด พูดคุยกันถูกคอจึงชวนกลับไปที่ห้องพัก เมื่อกลับมาถึงห้อง ตนเข้าไปอาบน้ำ แต่หลังออกมานั้นหญิงสาวคนดังกล่าวได้หายไป เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในกระเป๋ากางเกงก็พบว่า เงินสดได้สูญหายไป พร้อมกับหญิงสาวคนดังกล่าวเช่นกัน กระทั่งมาพบเดินอยู่บริเวณชายหาด โดยเปลี่ยนชุดตบตาแต่ตนเองนั้นจำได้จึงแจ้งเจ้าหน้าที่อาสาให้พาเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนดังกล่าว…

เวลา 16.36 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.ประสิทธิ์ บุญประสิทธิ์ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด น้ำกตเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดสภ.เมืองพัทยา ไปตรวจสอบภายในซอยจอมเทียน3 หลังเกิดเหตุ ชายฉกรรจ์มีอาการคุ้มคลั่ง ไล่ทำร้ายประชาชน โดยใช้เท้าทีมรถยนต์ของชาวบ้านโดยอ้างว่า พ่อเป็นตำรวจ กูจะไปทางนี้ แล้วกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเส้นทางการ ขับรถของชายดังกล่าวได้ซึ่งออกมาจากซอยหาดจอมเทียนสาม สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจหวั่นว่าจะเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด จึงได้นำกำลังไปซุ่มตรวจสอบเพื่อการป้องปรามและกวาดล้าง ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาด้วย เมื่อไปถึงพบว่า ยังมีบุคคลที่ไม่ได้เกรงกลัวต่อกฏหมาย ยังคงลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับขี้ยาอย่างโจ๋งครึ่ม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแม้แต่น้อย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เนื่องจากพ่อค้ายารายหนึ่งกลับต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ ทั้งเตะและต่อยจนถูกเข้าที่ใบหน้าของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ จึง ถูกจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าแบ่งใส่ถุงพร้อมจำหน่าย 50 เม็ด 1 ถุง 10 เม็ด 2 ถุง 8 เม็ด 1 ถุง ยาไอซ์ 4 ถุงรวม 78 เม็ด น้ำหนักรวม 3.15…

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบภายในซอยพัทยานาเกลือ 18/1 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีฝูงค้างคาวแม่ไก่จำนวนมากเข้ามาอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ เกรงว่าจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคแพร่กระจาย สร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา จากการตรวจสอบพบค้างคาวแม่ไก่นับพันตัว เกาะแน่นอยู่บนต้นไม้ใหญ่ริมถนน โดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็น พบว่ามีการบินออกหากินและกลับมาเกาะที่เดิมเป็นประจำ ขณะที่บริเวณพื้นถนนด้านล่าง เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลจากค้างคาว ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพกับประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเปิดเผยว่า ฝูงค้างคาวเหล่านี้มาอาศัยอยู่เป็นเวลาหลายปีแล้ว เจ้าของพื้นที่เคยพยายามตัดต้นไม้เพื่อไล่ แต่เมื่อกิ่งไม้กลับมาแตกใหม่ ค้างคาวก็กลับมาเกาะซ้ำอีก โดยเฉพาะช่วงเย็น จะมีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติหยุดดูหรือถ่ายรูปด้วยความตื่นตาตื่นใจ ทั้งนี้ จากลักษณะของค้างคาวและพฤติกรรมที่พบ มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็น “ค้างคาวแม่ไก่” หรือค้างคาวผลไม้สายพันธุ์หนึ่ง ที่นิยมอาศัยอยู่ตามวัดหรือพื้นที่ชุมชนที่มีต้นไม้ใหญ่และแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ โดยช่วงเดือนพฤษภาคมถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล อาจเกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นหากินหรือฤดูสืบพันธุ์ ทำให้ฝูงบินพร้อมกันจำนวนมาก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าไม่ใช่สัญญาณอันตรายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบ พร้อมหาแนวทางป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่